เปิดโรมมิ่งอันลิมิท ไม่ล็อกสัญญาณ บิลเป็นแสน !!!
"เจอแบบนี้ แล้ว เป็นตัวเราก็คงออกอาการ ช๊อคซีนีม่า ได้เหมือนกันน่ะค่ะ เรื่องแบบนี้ คงต้องออกมาเตือนภัย ให้ระวังกันเอาไว้ คิดหน่อยก็ดีนะคะ ก่อนที่จะ สมัครเข้าไปใช้บริการอะไร เพราะเด๋วนี้ ภัยจากสังคมของการฉกฉวยโอกาสจากคนที่ประมาท และไม่ได้ระวังตัว มักมีแอบแฝงอยู่ตลอดเวลา "การใช้บริการโทรศัพท์มือถือระหว่างประเทศ ว่า ขณะนี้ยังคงเป็นปัญหาสำหรับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพราะมีผู้บริโภคมาร้องเรียนอย่างไม่ขาดสาย
ล่าสุดก็มีนักศึกษาเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลี 6 วัน พกไอโฟนเล่นเน็ตตลอดเวลา โดยบอกว่า ใช้แพ็คเกจอันลิมิท แต่เมื่อกลับมาถึงไทยถูกเรียกเก็บค่าบริการถึงสองแสนกว่าบาท ทั้งนี้เป็นเพราะเครื่องไปจับสัญญาณนอกแพ็คเกจ
ถ้าหากผู้บริโภคเลือกเครือข่าย และล็อกเครือข่ายได้สำเร็จ ก็จะใช้ได้ตามโปรโมชั่นที่เลือกไปเต็มจำนวน แต่ถ้าไม่ได้ล็อกเครือข่าย แล้วเครื่องไปจับสัญญาณอื่น ก็จะกลายเป็นว่า ใช้เท่าไรก็ต้องจ่ายเท่านั้น และคิดตามปริมาณข้อมูล เช่น ประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น อเมริกา ซึ่งมี 3G ดังนั้นความเร็วอินเทอร์เน็ตจะวิ่งไวมาก สำหรับกรณีนักศึกษาดังกล่าว ไปเที่ยวเกาหลีเพียงไม่กี่วัน แต่เครื่องไปจับสัญญาณนอกเครือข่าย
พบว่า ใช้อินเทอร์เน็ตไปกว่า 400 เมกกะไบต์ และถูกเรียกเก็บค่าบริการเมกะไบต์ละ 500 กว่าบาท ขณะเดียวกันเครือข่ายที่ใช้ ได้กำหนดไว้เพียง 180 เมกะไบต์ เท่านั้น
การจำกัดวงเงินสูงสุดก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะการใช้บริการระหว่างประเทศ จะส่งผลแจ้งข้อมูลกลับช้ากว่าความเป็นจริง ทั้งนี้จากหลักการทางเทคนิคนั้น ค่าใช้จ่ายในต่างประเทศไม่สามารถโอนข้อมูลมาทันที แต่จะแจ้งกลับดีเลย์ไป 1 วัน ซึ่งไม่เหมือนใช้ที่ประเทศไทย ถ้าหากเกินกำหนดการใช้แล้ว ทางเครือข่ายจะตัดให้เองโดยอัตโนมัติ ดังนั้นต่อให้ควบคุมค่าใช้จ่ายไว้ก็อย่าชะล่าใจ เพราะต่อให้มีการใช้เกินวงเงินแล้ว เครื่องก็จะยังไม่ตัด ยังใช้ได้อยู่
ถ้าต้องการเปิดโรมมิ่งเพื่อเดินทางไปต่างประเทศนั้น ก็ควรสอบถามชื่อเครือข่ายที่เราต้องใช้เมื่ออยู่ต่างประเทศ และเมื่อไปถึงก็ควรล็อกระบบรับสัญญาณเฉพาะ รวมไปถึงการสังเกตหน้าจอเป็นระยะ ๆ ว่าเครือข่ายของเรารับสัญญาณเครือข่ายใดอยู่
หรืออาจจะใช้วิธีซื้อซิมการ์ดในประเทศนั้น ๆ แทน เพราะค่าบริการจะถูกกว่าการใช้บริการข้ามประเทศ เพราะฉะนั้นอยากจะให้ผู้บริโภคฉลาดที่จะเลือก เพราะเงินที่เสียไป บางทีมันไม่คุ้มค่ากับการใช้งานเลยแม้แต่นิดเดียว
ต่อไปนี้เราคงต้องระมัดระวัง กันให้มากขึ้น เกี่ยวกับ เรื่องการใช้ไฮเทคโนโลยี ที่นับวัน ยิ่งผูกพันเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของเราเพิ่มมากขึ้นทุกที เสมือนเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ไปซะงั้น
ที่มา: http://www.talkystory.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น