วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อาทิตย์ ธรรมะ

คำสอน ท่าน ว.วชิรเมธี ทำๆ ตามได้บ้างก็จะดีเน๊อะ สาธุ!

















วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

On my birthday with penfolds 407

Penfolds ผู้ยิ่งใหญ่แห่งออสเตรเลีย
         ไวน์โลกใหม่นับว่ามาแรงในตลาดโลกในช่วง 10 – 20 ปี ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมืองไทยที่เมื่อก่อน รู้จักแต่ไวน์ฝรั่งเศส หรือไม่ก็อิตาลี หรือเยอรมัน แต่เมื่อตลาดไวน์เติบโตขึ้น ไวน์จากโลกใหม่ได้หลั่งไหลเข้ามามากมายหลายร้อยยี่ห้อ และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ทำให้แชมป์เก่าอย่างฝรั่งเศสต้องหันกลับมามองผู้ที่ตามมาติดๆ อย่างออสเตรเลียไวน์ ที่ไล่ขึ้นมาจนรู้สึกถึงลมหายใจที่สัมผัสได้บริเวณต้นคอ
ไวน์ ออสเตรเลีย นำเข้ามาในบ้านเรามากเป็นอันดับที่สอง เป็นรองอยู่แค่เจ้าเดียวคือฝรั่งเศส แชมป์เก่าที่ร่อแร่เต็มที แต่ละปีก็หืดขึ้นคอที่กว่าจะรักษาแชมป์ไว้ได้ ไม่เฉพาะที่เมืองไทยเท่านั้น ในตลาดอื่นของโลกก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันคือ ตัวเลขหดหายไปเรื่อยๆ นับว่าเหนื่อยสำหรับไวน์โลกเก่า
          นั่น เป็นเพราะว่าไวน์โลกใหม่ราคาค่าตัวย่อมเยาว์กว่าไวน์โลกเก่ามาก ส่วนรสชาดก็จี๊ดจ๊าดถึงใจคอไวน์ และที่สำคัญคอไวน์รุ่นใหม่ จะดื่มไวน์ที่คุ้มค่าไวน์มากกว่า ไวน์แพงราคาหลายพันหลายหมื่น ถูกเมินกันมากขึ้น เพราะคนสมัยนี้มองที่ความประหยัดและคุ้มค่ามากขึ้น
          เพนโฟลด์ (Penfolds) ไวน์จากออสเตรเลียตัวนี้ สามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นไวน์ที่คอไวน์ทั้ง5f ไทย และเทศรู้จักกันดีที่สุดในบรรดาไวน์ออสซี่ด้วยกัน เนื่องจากเป็นผู้ผลิตไวน์คุณภาพคับแก้วรายใหญ่ที่มีไวน์อยู่ในสายการผลิต หลายสิบตัว ทั้งแดงทั้งขาว ไล่เรียงกันตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหลายหมื่นบาท
          ใน บ้านเราโดยเฉพาะในหมู่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ นับว่ารู้จักและชื่นชอบไวน์เพนโฟลด์กันมาก หากมีไว้หรือได้เปิดเลี้ยงรับรองแขกคนสำคัญ หรือผู้ใหญ่แล้วละก็ แฮปปี้กันทุกงานไป

   Christopher Rawson Penfolds
          จากประวัติของเพนโฟลด์นี้ ต้องนับย้อนหลังไปเกือบ 200 ปี เริ่มจากที่นายคริสโตเฟอร์ รอว์สัน เพนโฟลด์ (Mr. Christopher Rawson Penfolds) ได้ กำเนิดขึ้นมามองโลกที่ประเทศอังกฤษ แดนดินถิ่นผู้ดี หลังจากได้ร่ำเรียนจนจบวิชาการแพทย์ดังสมใจปารถนา ได้คำว่าดอกเตอร์ มานำหน้าชื่ออย่างโก้หรูในปี 1838 แต่ในใจของนายแพทย์หนุ่มผู้นี้ มีความรักไวน์เป็นอย่างมาก และมีความเชื่อมั่นว่าไวน์เป็นสิ่งมีค่าทางยาที่ใช้บำบัดโรคได้
          ต่อ มา เขาได้อพยพครอบครัวของเขาไปอยู่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นอาณานิคมที่อยู่ไกลสุดของอังกฤษ โดยก่อนที่จะอพยพไปที่ออสเตรเลีย ดอกเตอร์คริสโตเฟอร์และแมรี่ผู้เป็นภรรยา ได้นำเอาต้นพันธุ์องุ่นจากทางตอนใต้ของฝรั่งเศสไปด้วยจำนวนหนึ่ง และได้นำไปปลูกไว้รอบๆกระท่อมหลังน้อยของเขาที่บริเวณตำบลมากิลล์ (Magill) ซึ่งอยู่ในเขตอดิเลด (Adelaide) ในปี 1845 (ซึ่งต่อมา ได้เป็นไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงไร่หนึ่งในจำนวน 4 ไร่ ของเพนโฟลด์) ในปี 1845 และได้ให้ชื่อของบ้านน้อยของเขาว่า เดอะ เกรนจ์ (The Grange) ตามชื่อบ้านของแมรี่ผู้เป็นภรรยาที่ประเทศอังกฤษ
          ในยุคต้นๆของเพนโฟลด์ ได้ผลิตเฉพาะ  พอร์ติไฟด์ไวน์ (Fortified) เท่านั้น คือ เหล้าพอร์ทและเชอร์รี่ (Port and Sherry) และไวน์ของเพนโฟลด์ก็ได้ความนิยมมากจนต้องขยายไร่และเพิ่มปริมาณการผลิต จนกระทั่งปี 1870 ด๊อก เตอร์ คริสโตเฟอร์ ได้เสียชีวิตลง และได้ทิ้งภาระอันยิ่งใหญ่นี้ไว้กับแมรี่ผู้เป็นภรรยา และลูกสาวกับลูกเขย ที่ต่อมาได้ช่วยกันสร้างเพนโฟลด์ ให้เติบใหญ่มากขึ้นจนในปี 1881 สามารถผลิตไวน์ได้ถึง 500,000 ลิตร และทำให้ชื่อของเพนโฟลด์เป็นที่รู้จักติดหูติดปากคนทั่วไป
ต่อมาแมรี่ภรรยาม่ายของดอกเตอร์ คริสโตเฟอร์ ได้เกษียนตัวเองลงในปี 1884 และเสียชีวิตลงในปี 1895 ผู้ที่รับหน้าที่ต่อจากนี้ไปก็คือ จิออร์จิน่า ผู้เป็นลูกสาวกับสามี โธมัส ไฮแลนด์ (Georgina and Thomas Hylands) ซึ่ง เป็นยุคที่ทำให้เพนโฟลด์ได้รับความนิยมจากนักดื่มไวน์อย่างสุดสุด จนสามารถกล่าวได้ว่า ไวน์ทุกๆสองขวดที่เปิดดื่มในออสเตรเลียในปี 1920 นั้นจะเป็นไวน์จากเพนโฟลด์หนึ่งขวด
จวบจนกระทั่งถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัทเพนโฟลด์ที่ได้แต่มุ่งผลิตพอร์ติไฟด์ ไวน์และบรั่นดีเป็นหลัก ส่วนไวน์ที่เป็นไวน์นิ่ง (Still Wine) หรือ Table wine นั้น เพนโฟลด์ ให้ความสนใจและผลิตน้อยมาก จนกระทั่งเจฟฟรี่ เพนโฟลด์ ไฮแลนด์ (Jeffrey Penfold Hyland) ได้ ตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนแนวทางของเพนโฟลด์ โดยให้หันมาผลิตไวน์มากขึ้น และเมื่อสงครามสิ้นสุดลง เพนโฟลด์ได้ผลิตไวน์แค่เพียง 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่นั่นคือจุดเปลี่ยนของเพนโฟลด์ที่นำมาสู่ความยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน

 Max Schubert 

ในปี 1950 เจ ฟฟรี่ผู้ทีจิตใจเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ที่จะผลิตไวน์แทนเหล้าพอร์ทและบรั่นดี ก็พยามโน้มน้าวบริษัทฯให้เห็นด้วยกับความคิดของเขาและเมื่อมีปณิธานอันแน่ว แน่ อุปสรรคทั้งปวงย่อมพ่ายแพ้ บริษัทฯเปิดไฟเขียวให้เจฟฟรี่ดำเนินการ ภาระอันหนักอึ้งจึงไปตกอยู่กับ แมกซ์ ชูเบิร์ท (Max Schubert) ผู้ปรุงไวน์ฝีมือเยี่ยมของเพนโฟลด์ที่ได้เข้าร่วมงานกับเพนโฟลด์ ตั้งแต่ปี 1931 เมื่อเขามีอายุได้สิบกว่าปีในตำแหน่งพนักงานเดินเอกสาร
แม็ก ซ์ ชูเบิร์ท ผู้นี้แหละที่เป็นปรมาจารย์ในด้านการปรุงไวน์ ถึงแม้จะเข้าร่วมงานกับเพนโฟลด์ในตำแหน่งพนักงานเดินเอกสาร แต่ความที่มีใจรักความก้าวหน้า เขาจึงไปเรียนวิชาเคมีในตอนกลางคืนจนจบ และได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยของนักเคมีของเพนโฟลด์ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้ปรุงไวน์เมื่ออายุ 25 ปี และสุดท้ายได้รับตำแหน่งหัวหน้าผู้ปรุงไวน์เมื่อปี 1948 เมื่ออายุแค่เพียง 33 ปี
แต่ ก่อนแต่ไรมา เพนโฟลด์ถนัดแต่ผลิตเหล้าพอร์ท เชอร์รี่ และบรั่นดี แต่เมื่อนโยบายและทิศทางเริ่มเปลี่ยน แม็กซ์ผู้ทำหน้าที่ปรุงไวน์จึงต้องเดินทางไปศึกษาดูการทำไวน์ที่ยุโรป และกลับมาผลิตไวน์อย่างจริงจังครั้งแรก ที่ถือว่าเป็นรุ่นบุกเบิก คือ เกร้นจ์ เฮอร์มิทาจ () โดยใช้องุ่นชิราซล้วน และต่อจากนั้นมาถึงปัจจุบันก็ประมาณ 50 ปี เกร้นจ์ เฮอร์มิทาจก็ได้กลายเป็นเรือธงของเพนโฟลด์และออสเตรเลียไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันไวน์ตัวนี้ได้มีชื่อว่า Grange ตัวเดียวโดยตัดคำว่า Hermitage ออกไป
          ส่วนไวน์ตัวอื่นๆของเพนโฟลด์เช่น Bin 707, Bin 389, Bin 128, Bin 28 และ Bin 2 ได้ผลิตขึ้นตามมาในปี 1960 และตามมาด้วย Koonunga Hill ในปี 1976 นอกจากนี้ยังมีไวน์รุ่นพิเศษที่แม็กซ์ได้ให้ผู้ปรุงไวน์ในทีมของเขาคัดเลือกแปลงองุ่น ที่ดีในแต่ละไร่ออกมาแล้วผลิตเป็นไวน์รุ่น “ Special Bin” ออกมาเช่น Bin 60A, Bin 90A หรือ Kalimna Block 42 ซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นระดับพรีเมี่ยมไวน์ที่หายาก เท่าที่ดูยังไม่เคยเห็นในบ้านเรา ถ้าใครอยากจะดื่มต้องบินไปออสเตรเลีย
          นอกจากไวน์แดงแล้ว เพนโฟลด์ก็ยังทำไวน์ขาวได้ดี โดยเฉพาะไวน์ขาวที่ทำจากองุ่นชาร์ดอนเนย์ โดยเฉพาะ ในปี 1990 เพนโฟลด์ได้บรรจงผลิตไวน์ขาวชื่อ Yattarna ซึ่งทำจากองุ่นชาร์ดอนเน่ย์ออกมา ซึ่งไวน์ตัวนี้เป็นไวน์ที่มีรสชาดสุดเยี่ยม แต่ราคาก็สุดโต่งเหมือนกัน
          เพนโฟลด์มีไร่องุ่นหลักอยู่ 4 ไร่ คือ Magill Estate Vineyard, Kalimna Vineyard, Koonunga Hill Vineyard และ Clare Estate Vineyard องุ่นที่ปลูกในไร่เหล่านี้ก็คือพันธ์ชิราซ, คาแบร์เนต์ โซวินญอง, มาทาโร (Mataro หรือ Mourvedre) มีมาลเบคบ้างนิดหน่อย ส่วนองุ่นขาว ก็จะมีชาร์ดอนเนย์เป็นหลัก ตามด้วยเซมิลยอง ริสลิ่ง และโซวินญอง บลอง
          ไวน์ของเพนโฟลด์นับเป็นไวน์ที่มีคนรู้คนรู้จักมากที่สุดในกลุ่มของไวน์จากออสเตรเลีย ไวน์ตัวเด่นๆที่จะหาได้ในบ้านเราก็จะมี Grange, Bin 707, Bin 389, Bin 407, Bin 128, Bin 25, Bin 2, Koonunga Hill และ Rawson Retreat ไล่เรียงมาจากระดับ Top ถึงระดับล่าง บางตัวมีเฉพาะไวน์แดง บางตัวก็มีทั้งแดงทั้งขาว เช่น Koonunga Hill และ Rawson Retreat        ไวน์ ดี คนนิยมมาก ราคาก็จะสูงตามไปด้วย ประกอบกับภาษีในเมืองไทยที่สูงมหาโหด ข่าวล่าสุดออกมาว่า บริษัทฯ ตัวแทนในเมืองไทยได้ตั้งราคาของ Bin 707 เอาไว้ที่ 15,000 บาท ขาดตัวต่อหนึ่งขวด และส่วนตัวเรือธง Grange นั้นไม่ต้องพูดถึงราคาไปอยู่ 50,000 บาท ต่อขวด ก็ไม่ทราบว่าทำไมราคาถึงได้พุ่งไปขนาดนั้น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ราคายังอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ว่าใช่เพนโฟลด์จะมีเฉพาะไวน์ราคาหลักหมื่น ราคาหลักร้อยต้นๆก็มีหลายตัว หลายระดับให้ได้เลือกหากันตามกำลังและรสนิยม

http://www.winescale.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5340217&Ntype=14

 

2009 Tasting Notes

Launched with the 1990 vintage in 1993, Penfolds Bin 407 was developed in response to the increasing availability of high quality Cabernet Sauvignon fruit. Inspired by Penfolds Bin 707, Bin 407 offers varietal definition and approachability, yet with structure and depth of flavour.
A textbook Cabernet Sauvignon, the varietally expressive Bin 407 highlights the rewards of Penfolds multi-region, multi-vineyard blending, with a core of ripe fruit supported by a sensitive use of French and American oak.


Bin 407 Cabernet Sauvignon was developed by former Penfolds Chief Winemaker John Duval, in response to market demand for a versatile cabernet sauvignon style that could be enjoyed for immediate drinking, or could develop well in the cellar.
With a couple of notable exceptions, quality cabernet sauvignon has only been widely available for a matter of decades. Many of these vineyards are entering the mature phase of their productive life and there is now a rich source of high quality fruit for Penfolds winemakers to draw from.
The objective with Bin 407 has always been to promote cabernet’s varietal character, in tandem with the Penfolds house style.
Providing a lovely contrast to the more powerfully structured Bin 707, Bin 407 is a restrained and elegant cabernet sauvignon style with clear, varietal black-currant/cassis aromas, fine-grained firm tannins and underlying cedar/savoury oak.


source: http://www.penfolds.com/en/Wines/Bin-Range/Bin-407-Cabernet-Sauvignon.aspx

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

My clinique's order

Your Clinique Online order number 2081542266 has been shipped
Thank you for your order with Clinique Online. We are pleased to inform you that your order number 2081542266 has been processed and shipped. For your convenience, we include the details of your order so you can compare the information with your online order confirmation.
Your order has been shipped via UPS
The tracking number is...
Click here to track your package.

Thanks again for your order and for visiting Clinique Online. If you should have any questions or concerns, please contact a Clinique Customer Service representative at CustomerCare@Clinique.com. For fastest service, please refer to your order number in any correspondence.


Brush-On Cream LinerBrush-On Cream Liner

Brush-On Cream Liner
Creamy eyeliner brushes on deep, smoky, eye-defining colour. Long-wearing, waterproof formula comes complete with a mini Eye Liner Brush. Ophthalmologist tested.
  • Formula: Cream
.17 oz./5 g 

Perfectly Real Compact MakeupPerfectly Real Compact Makeup

Perfectly Real Compact Makeup
Silky, oil-free formula looks like your skin-only better. Optimizes skin's varying tones to create a more even appearance. Buildable coverage lasts for hours, yet feels like nothing at all. Controls shine. In a ready-to-go, ready-to-perfect compact. Oil-free.

.52 oz/12 g 


All About Eyes ConcealerAll About Eyes Concealer

All About Eyes Concealer
Multi-tasking concealer disguises dark under-eye circles while helping to reduce the look of puffiness. Long-wearing, moisturizing formula won't crease or settle into fine lines. Oil-free. Ophthalmologist tested.
  • Formula: Liquid Concealer
  • Coverage: Full
  • Benefits: Disguises, de-circles, de-puffs
.37 oz/11 ml 


แถมให้ดู เพลินๆ ตา May Gift Set , ที่ทางไทยเราจัดโปรกันช่วงร้อนนี้ Summer Gift Set

Beachy Duffle, Beachy Sun Hat ,Sunny Flip Flops

ต้องแลกมาด้วยการซื้อสินค้า ถ้าอยากได้ทั้งเซต ก็จ่าย 5,000 บาท 

เงินไม่พอ ก้ ต้องเลือก ชิ้นละ 2,000 บาท อิอิ...ไปสอยมากันเหอะ ว้าาาวว


วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Fitflop แท้ เทียม ดูยังไง

     Woooooow !  with My Fitflop 
 
 วันนี้ order fitflop จาก อเมริกา ไปคู่นึง หลังจากที่อยากได้มานาน คริคริ ( สี และไซส์ ตามรูปคู่นี้เลยอ่ะจร้าาา )

          หลังจากคลิกจ่ายตังค์ไป ก้ทำให้จิตตก เกิดเกลัวขึ้นมาฉับพลัน อืมมม ตรูจาได้ของก๊อป อะป่าวหว่าาา แต่ก้ไม่ทันแล้วอ่าา จ่ายตังค์ไปแย้วววว ...แต่ก้เน๊อะ ช่างมันเหอะ ไหนๆ มันก้มาจาก อเมริกาแล้วนี่หว่า  จะแท้จะเทียม ก้มารอดูของจริงที่จะส่งมาเลยดีก่า  แต่ก้ยังไม่วายที่จะค้นหาข้อมูล ว่าดูยังไง ถึงจะรู้ว่า มานเป็นของจริงหรือ ปลอม เอ้าาาา ก้เลยได้แบบนี้อ่ะค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับสาวๆ ที่กำลัง เป็นโรค fitflop fever เหมือนๆกัลล์ แหะๆๆ







 



รองเท้าสีอะไรป้ายจะสีเหมือนรองเท้า 


  ทีนี้มาดู ของปลอม กันดีกว่า ป้ายส่วนใหญ่ไม่ว่ารองเท้าสีอะไรป้ายจะสีดำ วงกลมที่บอกไซด์ จะเป็นสีแดง

 




1.สีที่บอกขนาดรองเท้าตรงแผ่นป้ายห้อย
2.สีที่บอกขนาดรองเท้าตรงถุงใส่
3..สีที่บอกขนาดรองเท้าใต้รองเท้า

ทั้ง 3 สิ่งนี้สีเดียวกันหมดค่ะ

ป้าย Label


สี ของเทียม ด้านซ้าย ไล่สีเลื่อมไม่สม่ำเสมอ

คู่ปลอม


บีบของก็อป ถ้าบีบแล้วจะเห็นว่านิ่ม ยวบ ไม่เป็นทรง

ของแท้ บีบแล้ว ดีดตัว เป็นทรงเหมือนเดิม
จะรู้สึกได้เลยว่ามันแข็งและมีการเด้งออก เมื่อปล่อยแล้วก็ยังเป็นทรงสวยๆเหมือนเดิมเลย
ส่วนของก็อป เวลาปล่อยจะเห็นเลยว่า มันบิด เบี้ยว ไม่เด้งกลับเหมือนเดิมแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าของแท้ที่นำมาเทียบโดนใส่ไปมากแค่ไหน เยินมากแค่ไหน



 รุ่น Electra ที่มีทั้ง made in thailand และ china 


คู่ด้านซ้าย โลโก้แดงใหญ่เป็น thailand     ส่วนคู่ขวาเป็น china


ขอบคุณที่มาข้อมูล http://www.pantown.com