วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

สุดยอดงานนาฬิกาแห่งเอเซีย ครั้งที่ 13

ไม่ดู ไม่ได้แล้ววว งานนี้ คนรวยๆ เขาซื้อนาฬิกาเรือนแสนแพงโคตะระ ไปทำไมกันหว่าาา
เจอภาพ สวยๆแบบนี้ ก็แค่ อยากเก็บไว้ ชื่่นชมบ้าง อิอิ คงไม่ว่ากัน มะซื้อก้ขอแค่ชม เฉยๆเป็นอาหารตาละกันเน๊อะ
สุดยอดงานนาฬิกาแห่งเอเซีย ครั้งที่ 13
"Central International Watch Fair 2011"
รวมกว่า 180 แบรนด์ระดับโลก รุ่นล่าสุด จากงานบาเซิลเวิลด์
รวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท
ระหว่างวันที่ 25 ส.ค. -  27 ก.ย. 2554  ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม และแผนกนาฬิกาห้างเซ็นทรัลทุกสาขา
Central International Watch Fair 2011"  เป็นงานแสดงนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งห้างเซ็นทรัลเป็นผู้บุกเบิก และจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 13  โดยรวบรวมสุดยอดนวัตกรรมเครื่องบอกเวลา จากบริษัทผู้ผลิตแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รักนาฬิกาทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังมุ่งมั่นสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจนาฬิกา แห่งภูมิภาคเอเซีย
ภายในงานได้ จัดแสดงนาฬิกาที่หาชมได้ยาก  รวมถึง  นาฬิกาที่นำมาเปิดตัว และจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในงานนี้ ได้แก่ แบรนด์ Ralph Lauren
นาฬิกา ที่เป็น Exclusive bgrands ระดับโลก ที่นำมาจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ได้แก่ แบรนด์ Louis Erard, Montblanc และSarcar
ตลอดจนนาฬิกาที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษและมีจำนวนจำกัด จากแบรนด์ระดับโลก รวมกว่า 180 แบรนด์  รวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท   ระหว่างวันที่ 25 ส.ค. -  27 ก.ย. 2554  ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม และแผนกนาฬิกาห้างเซ็นทรัลทุกสาขา

เจอคุณโย-ยศวดี   ขอถ่ายรูปก่อนล่ะกัน..
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา  ได้มีโอกาสไปร่วมงาน  "Central International Watch Fair 2011"  สุด ยอดงานนาฬิกาแห่งเอเซีย ครั้งที่ 13  ที่ห้างเซ็นทรัล ชิดลม   เป็นรอบ VIP และให้สื่อมวลชน    ไปถึงงานก่อนเวลาเล็กน้อย   ได้เจอกับคุณย่าดาด้วยค่ะ   เท่ากับ จาก Oknation มากัน 2 คน  ลงทะเบียนสื่อมวลชนเสร็จเรียบร้อยก็เดินเข้างาน   หาอะไรรองท้องก่อนกันนะค่ะ..
น่าทานทั้งนั้น...  
 เดิน เข้ามาด้านในสุด เป็นส่วนที่จะจัดแสดงแบบนาฬิกา ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Black Victorian" เป็นการนำเสนอนาฬิกาเรือนเด่น  ในบรรยากาศห้องรับประทานอาหารสุดอลังการ ที่ตกแต่งด้วยศิลปะยุควิคทอเรีย แห่งสหราชอาณาจักร.. 
 
 สลับ ด้วยคอนเซ็ปต์ "Colorful"   แสดงแบบด้วยนางแบบ-นายแบบชั้นนำ  อาทิ คุณ ฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์, คุณโย-ยศวดี  หัสดีวิจิตร, สิ- พิชญ์สินี ตันวิบูลย์, ซาร่า บอลล์, ธันวา สุริยจักร, สกล สกลธนารักษ์
เปิดตัวด้วยคอนเซ็ปต์ "Colorful"   สีสันสดใส
การเปิดตัวครั้งแรกบนรันเวย์แฟชั่นของ คุณปันปัน-เต็มฟ้า กฤษณายุธ ลูกสาวสุดรักของศิลปินดัง คุณแหวน-ฐิติมา สุตสุนทร
คุณโย-ยศวดี  หัสวิจิตร
คุณฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์
คุณแป๋ว  นักร้องเสียงดีมีคุณภาพ  ร้องเพลงได้ไพเราะมาก ๆ  ขับร้องเพลงตลอดช่วงเวลาเดินแบบ
ต่อไปเป็นคอนเซ็ปต์ "Black Victorian"
 
 

 
 


 คุณก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ และ คุณตูน บอดี้สแลม
ไฮไลท์ สุดเซอร์ไพร์ส!!  ปิดท้ายฟินาเล่   คุณก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ  สวมแบรนด์PIAGET (เฟียเจต์) รุ่น Limelight Kanthara (ไลม์ไลท์ คันทาร่า) ราคา 62,000,000 บาท และ คุณตูน บอดี้สแลม สวมแบนรด์ SARCAR (ซาการ์) รุ่นLe Carrousel (เลอ คารูเซล) ราคา 12,744,000 บาท


ผู้แสดงแบบถ่ายรูปร่วมกันกับผู้บริหาร
ซ้าย :  คุณปันปัน-เต็มฟ้า กฤษณายุธ
 คุณโย-ยศวดี  หัสดีวิจิตร  / คุณฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์
คุณฟลอเรนซ์ วนิดา เฟเวอร์

หลัง จาถ่ายรูปร่วมกันกับผู้บริหาร    บรรดาสื่อมวลชนต่าง ๆ ขอเก็บภาพคู่รักสุดฮอตคู่นี้  เกิดการเบียดเสียดชิงมุมกล้องกันอุตลุด   ทำไปทำมาเรากลับตกอยู่ในวงล้อมตากล้องด้วยกันซะงั้น..

ให้ตากล้องเก็บภาพคู่อีกครั้ง..
นาย แบบนางแบบทั้งหลายเดินไวมาก  มาไวไปไว  และตากล้องทั้งหลายก็มีทักษะในการเบียด/ แทรก /บัง  กันดีเหลือเกิน   ตอนเราเราอยู่หน้าสุดเลยนะ..แต่ในที่สุดก็ถูกเบียดลงไปอยู่ข้างหลังพวกเขา ได้ไงก็ไม่รู้....หึหึ
 
พิธีกรในงาน คุณศรัยฉัตร กุญชรฯ จีระแพทย์ และคุณณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา  พาชมนาฬิกาในงาน
 
 
ได้ภาพเก็บตกนอกงานของคุณโย-ยศวดี
ไซโก
 
 
เรือนนี้ มีเพชรขนาด 1 กะรัต อยู่ตรงกลางและเพชรหมุนได้ 360 องศา
แหม..น่าจะมีรูปแมวบ้างนะ...อิอิ
ชอบ เรือนนี้อ่ะ...แต่ไม่มีปัญญาซื้อค่ะ...  ได้มาถ่ายรูปนาฬากาพวกนี้ในตู้โชว์  ยอมรับเลยว่า  ถ่ายยากจริง ๆ   ยิ่งพวกที่มีเพชรเยอะ ๆ อย่างนี้นะ   โซโฮกสุด ๆ  ล็อคโฟกัสไม่อยู่เลย  เพชรมันสะท้อนแข่งกันมั๊ง....
 หมดแล้วฝีมือของตัวเอง....  มาดูของเซ็นทรัลที่เขาทำเอาไว้ดีกว่า
สองเรือนแรกนี้เป็นไฮไลท์ของงาน
 PIAGET (เฟียเจต์) รุ่น Limelight Kanthara (ไลม์ไลท์ คันทาร่า) 
ราคา 62,000,000 บาท
ตัว เรือนและสาย  ประดับเพชรบาแก็ตต์และเพชรเจียระไนทรงมรกต183 เม็ด (น้ำหนักราว 51.77 กะรัต)  หน้าปัดประดับเพชรบาแก็ตต์ 183 เม็ด (น้ำหนักราว 3.03 กะรัต)  รวม 366 เม็ด น้ำหนักเพชรทั้งสิ้น ประมาณ  54.8 กะรัต ผลิตจากทองคำขาวกล ไกไขลานด้วยมือบางพิเศษ
SARCAR (ซาการ์) รุ่น Le Carrousel (เลอ คารูเซล)
ราคา 12,744,000 บาท
ทำ งานด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติ ประดับเพชรเดี่ยวทรงกลมที่สามารถหมุนไปมาได้อย่างอิสระ ลงบนหน้าปัดเปลือกหอยมุกแทนตำแหน่งบอกเวลาทั้งหมด 12 เม็ด หนัก 6.05 กะรัต ส่องประกายแวววาวสะกดทุกสายตาเพียงแค่คุณขยับข้อมือ ตัวเรือนทำจากทองคำขาวประดับเพชรรอบขอบตัวเรือนหนัก 7.71 กะรัต รวมน้ำหนักเพชรทั้งหมด 13.76  กะรัต ประกอบเข้ากับสายหนังจระเข้แบบ 2 ด้านอย่างดี และตัวพับล็อกสายที่ทำจากทองคำขาวเช่นเดียวกัน   มีเพียง 1 เรือนในประเทศไทยเท่านั้น

HARRY WINSTON (แฮร์รี่  วินสตัน) รุ่น Rosebud (โรสบัด) 
ราคา 4,022,000 บาท
ตัว เรือนทองคำขาว ขนาด 27 มม. ประดับเพชรทรงกลม 126 เม็ด น้ำหนัก 2 กะรัต และเพชรทรงบาแกตต์ 16 เม็ด น้ำหนัก 1.8 กะรัต  ออกแบบอย่างปราณีต บรรจงด้วยดีไซน์กลีบดอกไม้ ล้อมวงประดับเพชรเม็ดงามทรงแพร์คัท 26 เม็ด น้ำหนัก 2.9 กะรัต  น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 6.9 กะรัต  โรสบัดเรือนนี้มาพร้อมกับความพิเศษที่ใช้เป็นเครื่องประดับในหลากรูปแบบ ทั้งจี้บอกเวลาทรงเสน่ห์ คล้องสายสร้อยคอทองคำขาว หรือใช้แทนเข็มกลัดประดับเสื้อ หรือเปลี่ยนโฉมเป็นเรือนเวลาบนข้อมือพร้อมสายผ้าซาตินสีดำ  มาพร้อมกับกล่องดนตรี เรอรืจ (Reuge)สีดำแลกเกอร์สำหรับจัดเก็บ

HERMES (แอร์เมส) รุ่น H-our (เอช-อาวร์) 
ราคา 419,400 บาท
นาฬิกา รุ่นเอกลักษณ์บ่งบอกถึงความเป็น HERMES มากที่สุด กับตัวเรือนรูปทรงสัญญลักษณ์ตัว "H"  นาฬิกา H-our   ออกแบบครั้งแรกตั้งแต่ปี 1996  และในปีนี้ได้รับการปรับโฉมหน้าปัดใหม่ โดยยังคงเอกลัษณ์ตัวเรือน "H"  ไว้เช่นเดิม  จับคู่มากับสายแบบ Interchangable รูปแบบใหม่ มีความพิเศษคือ สามารถถอดเปลี่ยนสายเองได้อย่างง่ายดาย  ตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีล ขนาด 26 มม. ประดับเพชรน้ำงามแบบ full cut diamonds ระดับ top Wesselton V.V.S "Extra White" to "Plus Extra White"  จำนวน 72 เม็ด (น้ำหนักรวม 1.03 กะรัต) รับกับหน้าปัดมุกแวววาวเจิดจรัส  ที่ประดับด้วยเพชรน้ำงาม บริเวณตำแหน่งบอกเวลาอีก 11 เม็ด สายนาฬืกาหนังจระเข้สีราสเบอร์รี่
 
CORUM (โฆรุ่ม) รุ่น Golden Bridge Automatic (โกลด็เด้น บริดจ์ ออร์โตเมติก)
ราคา 2,137,500 บาท
สุด ยอดจักรกลอัจฉริยะ ผสานศาสตร์และศิลป์บนเรือนเวลา ได้ผสมผสานความสง่างามอย่างลงตัวของระบบไขลานอัตโนมัติรุ่นแรกของโลก ที่ใช้ระบบเฟืองรูปสี่เหลี่ยมจ่ายพลังงานแนวตั้งสู่สะพานทองคำ ติดตั้งอยู่บนชุดกลไก CO-313 ครบครันด้วยระบบฟังค์ชั่นแสดงเวลาชั่วโมง นาที ตัวเรือนทรงตอนโนทำจากทองคำขาว 18 กะรัต หน้าปัดสีดำ กระจกคริสตันแซฟไฟร์ ด้านหลังตัวเรือนเผยให้เห็นกลไกการทำงานในแนวตั้ง สำรองพลังงานได้นาน 40 ช.ม.  ผลิตจำนวนจำกัดทั่วโลก  ประเทศไทยได้รับสิทธิพิเศษเพียง 5 เรือน
TAG Heeuer (แทค ฮอยเออร์) รุ่น Grand CARRERA (แกรนด์ คาร์เรรา)
 ราคา 325,000 บาท
นาฬิกา ระดับ'พรีเมี่ยม' กับกลไกที่ทันสมัย "คาลิเบอร์ 36 อาร์เอส คาลิเปอร์ โครโนกราฟ"  ด้วยกลไก Rotating System ซึ่งเป็นกลไลออโตเมติกตัวแรกของโลก ฉีกกฏเกณฑ์งานดีไซน์และฟังค์ชั่นนาฬิกาแบบเติม ๆ
 
MAITRES DU TEMPS (แมเตรอล์ ดู ตอมป์ส) รุ่น Chapter Two (แชปเตอร์ ทู)
ราคา 3,700,000 บาท
เกิด จากการผสมผสานกันของช่างทำนาฬิกาที่เป็นปรมาจารย์และมีประสบการณ์สูงทั้ง Mr.Daniel Roth (แดเนียล รอธ) และ Mr.Peter Speake-Marin (ปีเตอร์ สปีค-มาแร็ง)    ตัวเรือนรูปทรงถังเบียร์ (Tonneau)  หน้าปัดนาฬิกาเป็นการรวมตัวกันของหน้าต่างบอกวันที่ และการบอกวันประจำสัปดาห์และเดือนแบบ triple calendar ในตัวเรือนเดียวกัน   รูปแบบที่แตกต่างซึ่งไม่มีนาฬิกาเรือนใดในโลกเคยปรากฏมาก่อน   โดนมีสรีระศาสตร์รูปทรงเหมือนใบพายของ pusher ที่ด้านหลังของเรือนนาฬิกา ผลิตจากทองคำขาว 18K
MAURICE LACROIX (มอริส ลาครัวซ์) รุ่น Masterpiece Roue Carree Seconde (มาสเตอร์พีซ รู คาร์เร เชคกันด์) 
ราคา 370,700 บาท
กลไก ที่มีความยุ่งยากซับซ้อนโดยการพัฒนากลไกวงล้อสี่เหลี่ยมครั้งแรกในประวัติ ศาสตร์ โดยหลักการที่สำคัญในการออกแบบคือ การกำหนดให้รูปร่างของฟันเฟืองส่งผ่านพลังงานได้อย่างคงที่  ตัวเรือนทรงกลม คู่พื้นหน้าปัดมีให้เลือกทั้งสีดำและโรเดียม แสดงเวลาแบบ 2 เข็มกลางหน้าปัด โดดเด่นด้วยการแสดงค่าวินาทีผ่านฟันเฟืองสี่เหลี่ยมกับวงกลมที่ทำงานประสาน กัน ซึ่งแต่ละซี่ของฟันเฟืองเท่ากับเวลา 1 วินาที
GUCCI (กุชชี่) รุ่น 1921 Solid Gold  
ราคา 436,600 บาท
นาฬิกา รุ่นพิเศษ ฉลองที่แฟชั่นแบรนด์ระดับโลก กุชชี่มีอายุครบ 90 ปี ในปี 2011 ตัวเรือนทรงสี่เหลี่ยมให้ look วินเทจ สาย 18K Yelloe gold และหนังจระเข้
PARMIGIANI (พาร์มิเจียนี่) รุ่น Toric Tourbillon Chronograph (โทริค ทูร์บิญญอง โครโนกราฟ) 
ราคา 18,232,500 บาท
อีกหนึ่งผลงานที่น่าภาคภูมิใจของพาร์มิเจียนี่ ที่นำมาแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ผลงานชิ้นนี้เปรียบเสมือนประจักษ์พยายอย่างดีที่แสดงถึงฉายาที่ Mr.Michel Parmigiani ได้รับการยกย่องให้เป็น Golden Hands ในวงการอุตสาหกรรมผลิตนาฬิกา   ศิลปะการประดิษฐ์ชั้นสูงถูกถ่ายทอดลงบนเรือนเวลาอย่างวิจิตรบรรจง  บนตัวเรือนทองคำขาว 18 กะรัต ขอบตัวเรือย 3 ชั้นขัดแต่งลวดลายอย่างสวยงาม  เพิ่มความหรูหราด้วยหน้าปัดสีทอง ตรงกลางขัดแต่งลวดลาบแบบ Cote de Geneva (โก้ท เดอ เจนีวา)  มาพร้อมฟังค์ชั่นพิเศษ คือ การนำกลไกทูร์บิญญอง อันสะท้อนความเที่ยงตรงแม่นยำ รวมเข้ากับฟังค์ชั่นการทำงานระบบโครโนกราฟไว้ด้วยกัน
PERRELET (เพอร์ราเรท) รุ่น Turbine XS (เทอร์บาส เอ็กซ์เอส)
ราคา 820,000 บาท
เปล่ง ประกายโดดเด่นแฝงด้วยความซุกซน ระบบกลไกอัตโนมัติ โรโต้ คู่ลิขสิทธิ์เฉพาะของเพอร์ราเรท ออกแบบโรโต้หน้าปัดใบพัด หน้าปัดมุกสีขาว ประดับเพชร 286 เม็ด  รวม 3.22 กะรัต มาพร้อมสายซาตินสีขาว
OMEGA (โอเมก้า) รุ่น Seamaster Aqua Terra Co-Axial (ซีมาสเตอร์ อควาเทอร์รา โคเอเซียล คาริเบอร์ 8521) 
ราคา  510,000 บาท
ตัว เรือนขนาด 30 มม. ทำจากเรดโกลล์ หน้าปัดเปลือกหอยมุกลายไม้สักสีขาว ประดับเพชร 11 เม็ด 0.19 กะรัต พร้อมขอบตัวเรือนล้อมเพชรจำนวน 44 เม็ด 0.77 กะรัต กลไกขับเคลื่อนด้วย โค แอ็กเซียล เอสเปเมนท์ เพื่อความเสถียรในความเที่ยงตรงและความทนทานที่ยอดเยี่ยมกว่า
 PRANCK MULLER (แฟรงค์ มูลเลอร์) รุ่น Double Mystery Four Season (ดับเบิ้ล มิสทรี โฟร์ ซีซั่น) 
ราคา 3,672,000 บาท
นาฬิกา ที่มีความสว่างไสว เจิดจรัส เพชรน้ำงาม และพลอยหลากสีได้ถุกนำมาใช้ประดับตกแต่งตัวเรือนและหน้าปัด เพื่อสร้างสรรค์เฉดสีทั้งสี่ที่มีความกลมกลืนรับกัน  โดยแต่ละเฉดนั้นสื่อถึงความเป็นไปในแต่ละฤดูกาล 
ขอบคุณ : ข้อมูลจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ห้างเซ็นทรัล
กว่า จะถึงวันที่  27 ก.ย. 2554   ยังมีเวลาเหลืออีกหลายวันนะค่ะ  ว่าง ๆ แวะไปชมได้ ที่  ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม และแผนกนาฬิกาห้างเซ็นทรัลทุกสาขา 

ที่มา:www.oknation.net/blog/gangster

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น