วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554

็How to live your life oversea

Farewell 2011 with how to live your life oversea
ขอบคุณ อีเมลล์ ฉบับนี้ เป็นบทความส่งท้ายปีี้นี้ จาก คุณจัสมิน นิวซีแลนด์ค่ะ 
อ่านเพลินดีมาก ๆ ขอยกเก็บมาฝากเพื่อนๆในบล๊อกนี้ 

ส่งท้ายปี 2011 ด้วยบทความจะใช้ชีวิตเมืองนอกอย่างไร
สวัสดีค่ะคุณๆที่รัก
 
Topic นี้อาจจะเข้าถึงเฉพาะผู้ที่กำลังจะไปเมืองนอกนะคะ 
แต่รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามค่ะ เผื่อถึงตาคุณขึ้นมาบ้าง 
จะได้มีแบ็คกราวนด์ ไม่งมโข่ง ตอนดิฉันไปอยู่เมืองนอกใหม่ๆ 
อย่าให้บรรยายค่ะคุณ ไม่มีคนบอก คนแนะนำ 
เฟอะฟะ ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ประหนึ่งคนยุคหินเข้าเมืองนิวยอร์ค 
จะว่าขำก็ขำแต่ก็ชอกช้ำอยู่ลึกๆ เพราะอ่อนด้อยประการณ์...
 
ขออนุนญาต Congratulations! สำหรับคุณๆที่แต่งงานกับหนุ่มฝรั่ง 
หรือได้รับเชิญไปเมืองนอกในขณะนี้ บางส่วนก็ยังดูใจกันอยู่ 
ขอเอาใจช่วยทุกท่านค่ะ...
 
สำหรับคุณๆที่ยังโชคไม่ดี ยังไม่พบเนื้อคู่ วิ่งเต้นตับไต
ไส้จะหลุดจากขั้วก็ยังไม่เห็นวี่แววอัศวินขี่ม้าขาวมาหาคุณ 
ไม่รู้ไปรบที่ไหนกันหมด เหนื่อยๆท้อๆก็พักกาย 
พักใจไปก่อนสักระยะนะคะ หันมารักตัวเอง 
ดูแลเอาใจใส่ตัวเองก่อน ทำตัวเองให้สดใส ปิ๊งปั๊ง 
มีความสุขเสียก่อน ถึงยังจะไม่สมหวังเสียทีเดียว 
โลกกลมๆใบนี้ของเราก็ยังรื่นรมย์น่าอยู่ค่ะ...
 
เนื้อหาบทความฉบับนี้ไม่จำกัดเฉพาะสาวๆที่กำลังอยู่ในดงดอกรัก 
ผลิดอกออกช่อกับหนุ่มตาน้ำข้าวเท่านั้น ใช้ได้กับคุณๆ
ที่กำลังจะไปหางานทำเมืองนอกด้วยค่ะ 
ว่าแล้วก็ Let’s go กันเลยดีกว่า...
 
1. สำคัญมากค่ะ ต้องปฏิบัติตามกฎของบ้านเมืองเขา 
เบาะๆ เช่นการจราจร เมืองลอนดอนเขาขับรถเลนส์ซ้าย
เหมือนบ้านเรา แต่ที่อเมริกา ประเทศโซนยุโรป 
เขาแล่นกันทางขวานะคะ ข้ามถนนต้องใช้สะพานลอย 
ทางม้าลาย หรือที่สี่แยกสัญญาณไฟซึ่งจะมีปุ่มกดให้คนเดินข้าม 
ต่างไปจากบ้านเรา ดิฉันกลับบ้านครั้งสุด เคยชินกับทางม้าลายที่เมืองนอก 
คือรถจะหยุดให้คนข้าม ทีนี้ก็คิดว่าที่เมืองไทยจะเป็นอย่างนั้น 
ที่จริงก็เคยจำได้ว่าเป็นอย่างนั้น แต่คนมันลืมไงคะ 
เห็นทางม้าลายเดินเอ้อระเหยข้าม ไปได้ครึ่งทางเห็นรถบรรทุกยิปซั่ม 
ทั้งเปิดไฟสูง ทั้งบีบแตรใส่มาแต่ไกล เอื้อยนางอย่าเข้ามานะ
ข้อยชนเจ้าเละคักๆจริงๆด้วย ต้องวิ่งกลับมาตั้งหลักใหม่ 
เข้าคิวซื้อของอย่าคิดว่าสวย/หล่อแล้วจะทำเนียนๆลัดคิวได้ 
จะโดนสายตาประชาทัณฑ์ ขายขี้หน้าฝรั่งค่ะ 
ทิ้งขยะเป็นที่เป็นทาง ฯลฯ เรื่องเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ 
ประเทศอารยธรรมถือสาเอาเรื่อง ฉะนั้นพยายามปรับตัว 
Try to fit yourself well to the environment นะคะ ...
 
2. คอยสังเกตดูว่าเขากินอยู่กันอย่างไร 
มารยาทการกินของเขาก็พอๆกับของเราค่ะ แต่แทนที่จะเป็น 
ช้อน ส้อม เขาจับคู่ส้อมกับมีดแทน นอกจากนั้นก็มี 
ช้อนตักซุป ช้อนเล็กสำหรับชา กาแฟ โดยมารยาท
เขาไม่นิยมเลียมีด หรือแช่ช้อนคนเครื่องดื่มไว้ในแก้ว 
แม้ว่าเราๆหญิงชาวสยามจะเคยชินกับนั่งเสื่อ 
นั่งชันเข่ากินข้าวในหอพัก อยู่ตัวคนเดียวนี่คะ 
ไม่มีใครมาแชร์ความฝัน คิดจะปลูกคฤหาสน์สามฤดู 
มีลูกครึ่งตาสีฟ้า แก้มป่อง ผมเกลียวๆด้วยกันสักหนึ่งโหล 
เราปล่อยตัวตามสบายได้ แต่เมื่อโกอินเตอร์แล้ว 
ต้องอัพตรงนี้นิดหนึ่งค่ะ เผื่อว่ายาหยีของคุณทำงานมีหน้ามีตา 
เป็นหมอ ครูบาอาจารย์ นักธุรกิจ ผู้จัดการใหญ่ เจ้าของกิจการฯลฯ 
พาคุณออกงานราตรีจะได้ไม่ขายหน้า...
 
3. ไม่รีบร้อนหาเพื่อนรักเพื่อนตาย คนไกลบ้านเวลาเหงา 
มันเหงาลึกบาดเข้าไปในอวัยวะทุกส่วนของร่างกายจริงๆค่ะ 
เห็นใครหัวดำๆเดินอยู่ไกลๆ ก็จะตะครุบเข้าใส่ 
อยากพูด อยากคุยภาษาไทยด้วย ต้องระงับความรู้สึกนิดหนึ่งนะคะ 
ดูลาดเลาก่อน ผู้หญิงไทยเมืองนอกแบ่ง
เป็นกระดูกหลายเบอร์อยู่เหมือนกัน 
นี่ไม่ได้ดูถูกคนไทยด้วยกันนะคะ คืออยากจะให้คุณสังเกต
วิเคราะห์นานๆก่อนการตัดสินใจ 
เจอคนไทยใหม่ๆ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป 
ค่อยๆคบหา อย่าออกตัวแรง หวือหวาเกินควร 
เผื่อว่าดูๆไปแล้วนิสัยเขาอาจจะไม่เข้ากับเรา 
การจะตีตัวออกห่างจะได้ ไม่ยาก 
หากว่าเข้าไปคลุกวงใน เห็นไส้ซึ่งกันและกันทุกขด 
บทเราจะถอย จะทำได้ลำบาก พูดอย่างนี้ 
คุณๆที่อยู่เมืองไทยจะนึกภาพไม่ค่อยออกเพราะเพื่อนคุณแยะ 
แต่ใครที่อยู่เมืองนอกจะทราบ ใหม่ๆจะเป็นหัวเดียว
กระเทียมลีบทุกคน มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
ย่อมต้องการเพื่อน แต่ให้เวลาตัวเองสักนิด 
ของดีนั้นหายาก ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าเจอคนไทย
ในเมืองคนแรกก็นับเขาเป็นเพื่อนเป็นเพื่อนตาย 
มาค้นพบทีหลังว่าเขาอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วไม่อยากคบ 
มันก็จะไม่แฟร์กับเขาด้วย ออกตัวแผ่วๆ ไปเรื่อยๆ
ไม่ใช่จะตายกันพรุ่งนี้มะรืนนี้ หลักการปฏิบัติที่ดีที่สุดคือ 
มีเมตตา หัวใจอภัยเสมอ พูดน้อยๆ ยิ้มเยอะๆ 
เมื่อสกรีนได้เพื่อนที่คุณคิดว่าโอเคแล้วจริงๆ 
คุณถึงค่อยเป็นตัวของตัวเอง ถึงกระนั้น 
ก็พึงระลึกไว้เสมอว่า เผื่อใจไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลง 
เราไม่ได้ดีโอเว่อร์ หรือร้ายสุดๆกับเขา 
เจ๊ากันไป ไม่มีอะไรต้องมานั่งเสียใจทีหลัง...
 
4. รับมือกับความเหงา เกี่ยวโยงกับข้อที่ผ่านมา 
ถ้าหาเพื่อนที่ดีไม่ได้ เหลือแต่คนช่างนินทา 
อิจฉาริษยาแข่งเธอแข่งฉัน หรือคบด้วยแล้วปวดหัว 
อึดอัด ค่อยๆปลีกตัว แบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น 
อยู่กับตัวเอง ดูแลให้ความรักความเอาใจใส่แฟนแบบเต็มๆ
ไปเลยก็ดี เวลาเขาไปทำงาน เราอยู่บ้าน 
มีอะไรให้ทำเยอะแยะ สิ่งทดแทนความเหงา
มากมายก่ายกองค่ะ เรียนภาษา เปิดดิคชันนารีฆ่าเวลา 
เดินดูดอกไม้สายลมแสงแดดในหมู่บ้าน 
เขียนอีเมล์หาครอบครัว เชื่อเถอะค่ะวันหนึ่งๆ
เวลาปลิวหายไปเร็วยังพายุ...
 
5. อย่าทำให้คนรัก หรือคนที่เราอยู่ด้วยลำบากใจ 
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น 
เป็นสุภาษิตที่ใช้ได้ตลอดกาล ถึงเขารักเราแล้วก็จริง
แต่เราก็ต้องถนอมคุณภาพของตัวเองให้ดีๆ 
ช่วงนี้ล่ะคะจะเป็นช่วงทำคะแนนเปรี้ยงปร้างของคุณ
นอกจากดูแลบ้านให้เขา แล้วทำกับข้าวเบสิคๆที่เขากินได้ด้วย 
ผัดขิง ผัดไทย ผัดซีอิ๊ว สารพัดผัด 
หรือแม้แต่ไข่เจียวกุ้งสับหมูสับรสเข้มข้นก็เป็นบุญของเขาแล้ว
ฝรั่งเขามีกรรมเกิดมาไม่ต่างกับจระเข้
กินอะไรก็อร่อยไปหมด จนไม่รู้ว่าของอร่อยจริงๆเป็นอย่างไร 
จัดให้เขาซะ ไหนๆก็นางเอกมาถึงเกือบปลายทางแล้ว
ก็นางเอกต่อไปอีกนิด อย่าไปยุ่มย่ามกับของส่วนตัวเขานะคะ 
แม้แต่รูปหรือจดหมายของผู้หญิงคนเก่า 
เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ผู้หญิงไทยแยกแยะไม่เป็น
ซึ่งจะเสียเปรียบผู้หญิงฝรั่งตรงนี้ สมบัติจากแฟนเก่า
เขาอาจจะอยากเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ 
แต่เราจะด่วนตีโพยตีพายว่าเขาไม่ซื่อตรง 
ไม่ซื่อสัตย์กับเรา คนละเรื่องนะคะ ถ้าทำใจไม่ได้
ก็อย่าไปสอดรู้สอดเห็นของเขาก็สิ้นเรื่อง...
 
6. อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน มีจดหมายจากมิตรรักเมืองไกล
ส่งมาถึงดิฉัน ฝากเตือนเพื่อนๆสาวไทย
ที่จะไปอยู่เมืองนอกด้วยความหวังดี 
คืออย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง 
ความหมายบอกชัดอยู่ในตัว ก็คงจะเป็นการแตกประเด็น
มาจากการคบเพื่อนใหม่ในต่างแดนนั้นแหละค่ะ 
ดิฉันเชื่อว่าที่แฟนพาคุณมาเยี่ยมเมืองเขา 
เขาย่อมเห็นความดีงามในตัวคุณ สรุปก็คือคุณเป็นคนดี 
แต่ก็มีหลายคนที่ดีมากหนักไปทางซื่อ ปฏิเสธคนไม่เป็น 
จนมีปัญหายุ่งยากตามมา เบียดเบียนคุณเรื่องเงินทอง 
เอาเปรียบคุณไม่รูปแบบใดก็รูปแบบหนึ่ง ระยะแรกที่ไปอยู่ 
แฟนไม่อยู่บ้าน คุณต้องเซฟตัวเองให้ดี 
เป็นคนใจดี น่ารัก เปิดเผยนั่นดีอยู่แล้วค่ะ 
แต่ต้องมีลิมิทไม่เปิดหมดแปดทิศ 
จนใครจะมาลูบหัวลูบหางเอาคุณไปเป็นเครื่องมือใครก็ได้...
 
7. ไม่คาดคั้นแฟนเรื่องเงินทองของหมั้น 
ถ้าคุณสมารถอธิบายให้เขาฟังได้ก็ไม่มีปัญหา 
Subject นี้ค่อนข้างเซ้นสิทิฟสำหรับเพื่อนชายฝรั่งของคุณมาก 
บ้านเขาไม่มีระบบแบบนี้ ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง
จะกลายเป็นว่าพ่อแม่เราขายเราให้เขา ซึ่งเขาจะไม่ชอบเอามากๆ 
มีนะคะ บางคนจะแต่งกับฝรั่งที ตกสินสอดมากกว่าดารา 
จะโชว์คนทั้งหมู่บ้าน คิดใหม่ ทำใหม่นะคะ 
สงสารแฟน แถมไปสร้างภาพผิดๆให้ครอบครัวตัวเอง
เราเป็นคนกลาง พ่อแม่พี่น้องคิดว่าแฟนรวย คุณอยู่กับเขา
ทางบ้านขอเงินมาบ่อย แฟนไม่มีให้จะกดดันได้ 
ตอนที่ดิฉันจะแต่งกับสามีกลัวมาก ไม่กล้าเอ่ยปากเรื่องเงินเลยค่ะ 
จริงๆค่าตัวประมาณ สามสิบล้าน เขาไม่ให้สักบาท 
(เพราะดิฉันไม่ขอ เขาไม่ทราบ เลยไม่ให้) 
จัดการเฉพาะค่างานเลี้ยงโต๊ะจีน สามหมื่นบาท 
แม่บอกว่าลูกเขยท่านจนยิ่งกว่า ลูกจ้างสวนยางพาราแถวบ้านอีก 
สมมตินะคะถ้าค่าสินสอด 300,000 แสนบาท ทอง 10 บาท 
ราคาทองตอนนี้ไม่ทราบว่าเท่าไร ตีหยาบๆ 
บาทละ 20,000 แล้วกันนะคะคิดง่ายดี 
รวม 500,000 ให้เขาจัดการทีเดียวเลย 
สำหรับบางคนให้ได้ แต่เขาไม่ให้ ถือว่าเป็นตัวเลขเยอะ 
ให้เราขนาดนั้น เขาไปจ่ายผู้หญิงหากินข้างนอก 
คราวละ $ 130 ไม่ดีกว่าหรือ นี่คิดเป็นเงินสหรัฐ 
ก็หมื่นกว่าเหรียญ เจ้าบ่าวสะดุ้งเชียวนะคะ 
หลังจากแต่งงานแล้ว คุณสามีดิฉันก็ใจดี 
ถามว่าอยากได้อะไร ดิฉันบอกว่าอยากให้ส่งพ่อแม่
เดือนละ หมื่นบาท สองตายายอยู่กันแถวบ้านนอก
แค่นี้ก็หรูแล้ว เขาส่งเสียพ่อตาแม่ยายมาทุกเดือน
เจ็ดปีแล้วค่ะ คิดเป็นเงินคร่าวๆก็ 840,000 เกือบล้าน
นี่ไม่ได้ยกตัวเลขมาอวดร่ำอวดรวยนะคะ 
แค่อยากให้คุณเห็นถึงความแตกต่าง 
ได้น้อยๆแต่ได้เรื่อยๆ ไม่หนักเขา 
เรื่องส่งเสียพ่อแม่นี่สนับสนุนนะคะ 
ดูแลผู้มีพระไม่ให้อดอยาก คุณจะมีแต่ความเจริญก้าวหน้าค่ะ 
แต่ก็ต้องค่อยๆเจรจากับสามี อย่าเพิ่งให้เขามารับรู้ 
รับผิดชอบภาระของเราปุบปับ ต้องรู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน....
 
8. คงเส้นคงวา ข้อนี้ก็สำคัญสุดๆ before กับ after 
ต้อง นางฟ้า & นางฟ้า เท่านั้น นะคะ 
ไม่ใช่ Before นางฟ้า & after นางมาร มิได้ทีเดียวเชียว...
 
9. เมื่อเขาพาคุณมาเที่ยว เป็นนิหมายอันดีแล้วล่ะค่ะ
ว่าเขาจะยกย่องคุณเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งของเขา 
หากคุณเคยคร่ำหวอดอยู่ในวงการแชท
จากระดับมดงานจนได้เลื่อนขั้นเป็นนางพญา 
ให้เลิกแชทกับผู้บ่านอื่นโดยเด็ดขาด เขาจะได้สบายใจ 
โชว์สปิริต โชว์ความบริสุทธิ์ใจกันเห็นๆไปเลย 
อย่าได้เที่ยวซุกกิ๊ก แชทเรี่ยราดนะคะ ยิ่งใช้เครื่องคอมฯเขาด้วย 
เกิดเขาเช็คได้ คุณจะเสียโอกาสงามๆนี้ไป...
 
10. คำถามนี้ยอดฮิตมากค่ะ หลังจากมีแฟนฝรั่งเป็นตัวเป็นตน
แล้วควรบอกเขาดีไหมว่าคุณเคยหาแฟนทางเน็ต
ถ้าเป็นดิฉันนะคะ (ความเห็นส่วนตัวค่ะ คุณอาจจะคิดต่างจากนี้) 
คำแบบนี้ก็พอๆกับถามว่าเคยนอนกับใครมาบ้าง 
สรุปคือเป็นคำถามที่เกี่ยวพันกับเรื่องในอดีต
มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงอยู่แล้ว
ส่วนฝรั่งทีเขาหลับนอนมากับใครเยอะแยะ 
เขายังถือเป็นเรื่องส่วนตัว แค่คุณแชทกับนาย เอ นายบีมาก่อน 
จิ๊บๆค่ะ ไม่ต้องพูดถึง ไม่ต้องขุดคุ้ยยกเรื่องนี้มาพูดกับเขา
ถ้าเขาถามก็ตอบเรียบๆสั้นๆเพียงว่า มีบ้างแต่ก็ไม่จริงจัง 
เลิกทุกอย่างนานแล้ว ยิ่งมาพบเขา (แฟนคุณ) เลิกสนิท
เรือถึงฝั่งแล้วจะพายต่อให้เมื่อยแขนทำไม
แบบนี้เขาปลื้มหัวโตไปเลยล่ะค่ะ เขาไม่ถือสาอยู่แล้ว 
แต่จะว่าไปฝรั่งบางคนก็ค่อนข้างรับไม่ได้เหมือนกัน 
คุณดูเอาเองนะคะ แฟนใครแฟนมัน นิสัยจะไม่เหมือนกัน
ถ้าคุณเห็นว่าพูดแล้วไม่่เกิดมรรคผลก็เงียบๆ
ไปเสียดีกว่าค่ะ จะได้ไม่เปลืองเอ็นเนอร์ยี่...
 
จะขึ้นปีใหม่อีกวันสองวันนี้แล้ว ดิฉันใคร่ขอเอ่ยอ้าง
คุณพระศรีรัตนตรัย ขอให้คุณและครอบครัว 
มีแต่คสวามสุขความเจริญ รวยวัน รวยคืน 
ไม่เจ็บไม่ป่วย มีแต่โชคลาภเข้ามาในชีวิต 
ใครที่มีคู่อยู่แล้วก็ขออวยพรให้พวกคุณอยู่กันอย่างราบรื่น 
รักกันยิ่งๆขึ้นไป จนกว่าจะตายจากกัน 
ใครที่ยังโสดก็ขอให้โสดอย่างมีความสุข 
ทั้งชีวิตคู่ และชีวิตโสด ดีทั้งนั้นค่ะ มันขึ้นอยู่กับตัวเรา 
อยู่ที่การมอง การปฏิบัติตัวของเราทั้งสิ้น...
 
ขอบคุณค่ะ. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น