พูดถึงแตเรื่อง สาวๆ ไทย ที่อยากมีแฟนเป็นฝรั่งกันมาเยอะแล้ว วันนี้ขอพูดถึง ฝรั่งชายบ้างที่เขาเป็นฝรั่งแท้ๆ แต่มีหัวใจเป็นคนไทย หลงรักแผ่นดินไทยอย่างสุดซึ้ง มารู้จักเรื่องราวของฝรั่งที่หลงไหลสาวไทย ละมาแต่งงานกับสาวตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย จนตอนนี้มีใจเป็นคนไทย เต็ม 100% มาดูเรื่องราวของเขากัน ว่าทำไมเขาถึงหลงไหลสาวไทย และหลงรักเมืองไทย กันนะคะ
นี่เป็นบทสัมภาษย์ของ “มาร์ติน วีลเล่อร์” หรือที่ชาวบ้านแถวนั้นเรียกเขาว่า พ่อใหญ่มาร์
ผม มาร์ติน วีลเล่อร์ (Martin wheeler) อายุ 42 ปี เป็นชาวอังกฤษ มาจากเมืองแบล็กพูล (Black pool) ปริญญาตรีเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยลอนดอน...ก่อนหน้านี้เรียนอยู่ที่มหาวิ ทยาลัยเคมบริดจ์จนปีที่ 3 ที่ผมย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยลอนดอน แลจบที่นัน...เกิดในครอบครัวที่มีฐานะดีพอสมควร พ่อจบปริญญาเอกเป็นผู้จัดการบริษัทเกี่ยวกับสารเคมี่..แม่จบปริญญาตรีเป็น ครูสอนเปียนโนกับไวโอลิน..ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องเงินไม่ยากมีรถยนต์ไม่อยากมี บ้านใหญ่ อยากมีบ้านเล็กๆ ครอบครัวเล็กๆ ที่มีความสุข ไม่สนใจเรื่องวัตถุผมอยากอยู่แบบง่ายๆ เมื่อก่อนไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร แต่ตอนนี้รู้ว่า เขาเรียก มักน้อย สันโดษ...ที่อังกฤษเขาว่าผมบ้า
หลัง จากเรียนจบแล้ว..ผมก็ไปทำงานก่อสร้าง แบกอิฐแบกปูนอยู่ 10 ปี ช่วงนั้นชาวบ้านบอกว่า ผมบ้าแน่ครับแต่เป็นเรื่องทีผมอยากเรียนรู้ชีวิต อยากรู้จักตัวเองว่ามีความสามารถมากน้อยเพียงใด มีความอดทนมั้ย ทำในสิ่งทึ่เราไมน่าจะทำได้มั้ย ท้าทายตัวเองบ้าง อยากผ่านชิวตที่ลำบากบ้าง ชาวบ้านธรรมดาที่อังกฤษนั้นจริงๆ เขาลำบากกว่าคนไทยมาก เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ผมได้เห็น
ผม มาร์ติน วีลเล่อร์ (Martin wheeler) อายุ 42 ปี เป็นชาวอังกฤษ มาจากเมืองแบล็กพูล (Black pool) ปริญญาตรีเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยลอนดอน...ก่อนหน้านี้เรียนอยู่ที่มหาวิ ทยาลัยเคมบริดจ์จนปีที่ 3 ที่ผมย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยลอนดอน แลจบที่นัน...เกิดในครอบครัวที่มีฐานะดีพอสมควร พ่อจบปริญญาเอกเป็นผู้จัดการบริษัทเกี่ยวกับสารเคมี่..แม่จบปริญญาตรีเป็น ครูสอนเปียนโนกับไวโอลิน..ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องเงินไม่ยากมีรถยนต์ไม่อยากมี บ้านใหญ่ อยากมีบ้านเล็กๆ ครอบครัวเล็กๆ ที่มีความสุข ไม่สนใจเรื่องวัตถุผมอยากอยู่แบบง่ายๆ เมื่อก่อนไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร แต่ตอนนี้รู้ว่า เขาเรียก มักน้อย สันโดษ...ที่อังกฤษเขาว่าผมบ้า
หลัง จากเรียนจบแล้ว..ผมก็ไปทำงานก่อสร้าง แบกอิฐแบกปูนอยู่ 10 ปี ช่วงนั้นชาวบ้านบอกว่า ผมบ้าแน่ครับแต่เป็นเรื่องทีผมอยากเรียนรู้ชีวิต อยากรู้จักตัวเองว่ามีความสามารถมากน้อยเพียงใด มีความอดทนมั้ย ทำในสิ่งทึ่เราไมน่าจะทำได้มั้ย ท้าทายตัวเองบ้าง อยากผ่านชิวตที่ลำบากบ้าง ชาวบ้านธรรมดาที่อังกฤษนั้นจริงๆ เขาลำบากกว่าคนไทยมาก เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ผมได้เห็น
ถามว่าชีวิตของพ่อมีความสุขมั้ย ผมคิดว่าไม่ ผมคิดว่าพ่ออยากได้บางสิ่งบางอย่าง...เพราะว่าวันจันทร์ถึงวันศุกร์ไปทำงาน ที่โรงงานตกเย็นไปประชุม กลับบ้านสามทุ่มสี่ทุ่มไม่ได้เจอเมียเจอลูกวันเสาร์อาทิตย์พ่อก็ปวดหัว อยากพักผ่อนพ่ออยากอยู่คนเดียวไม่ให้ใครรบกวน พ่อมีเมีย และลูกสามคน แต่พ่อไม่ค่อยได้เห็นลูกเห็นเมีย สมัยที่ผมอายุ 13 ขวบผมไม่ได้คุยกับพ่อแม้แต่คำเดียว...แม่เสียชีวิต ผมได้มรดกนิดๆ หน่อยๆ มีเวลาที่จะไปเที่ยว ผมเคยวางแผนไว้ในใจว่าจะเที่ยว 1 ปี จะไปในประเทศที่ผมไม่เคยไปมาก่อน เช่น ไทย ลาว เขมร พม่า มาเลย์... (แต่) ประเทศแรกที่ผมมาคือประเทศ ไทย
สมัยก่อนผมมีนิสัยเสียชอบกินเหล้า ชอบเที่ยว ชอบสนุก เงินที่ผมเก็บไว้ 1 ปี ภายใน 2 เดือนให้หมดเลยไม่มีเงินกลับบ้านผมอยู่ประเทศไทยตั้งแต่ปี 2535 ผมอยู่กรุงเทพฯ ไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวไปหางานทำอาชีพอย่างเดียวที่เราทำได้ คือเป็นครูสอนภาอังกฤษจริง ๆ แล้วผมไม่ได้เป็นครูหรอก ผมสอนไม่เป็น แต่คนไทยเห็นฝรั่งจะบอกว่าฝรั่งทุกคนเป็นครูสอนภาษา ซึ่งมันไม่จริงฝรั่งส่วนมากไม่ได้เป็นครู...คนไทยก็แปลกดีเหมือนกัน เขาให้เงินเดือนผมเดือนละ 3 หมื่นบาทไปนั่งเฉยๆ ผมก็ละอายใจ ไม่อยากรับ ผมคิดมากปวดหัวทั้งวันทั้งคืน เพราะถ้าเราทำงานอะไรในชีวิตเราต้องได้ผล (งาน)
1..ผมมีอุดมการณ์เล็ก ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ หนึ่งถ้าเราทำงานอะไรต้องทำในสิ่งที่เรามีความสุข สอง จะไม่ทำงานที่ต้องผูกเนคไทสาม จะไม่มีกระเป๋าเอกสาร เพราะว่าเหมือนสังคมของพ่อแม่ผมเขาจะทำงานแบบนั้นทุกคนมีเสื้อนอก มีรถยนต์มีเอกสาร เเต่เขาไม่ค่อยมีความสุขหรอก ผมเอาสิ่งนี้มาเป็นสัญลักษณ์แห่งการทำงานที
ไม่มีความสุญ มีช่วงเดียวเท่านั้นที่ผมทรยศต่อชีวิตตัวเอง คือช่วงที่ผมเป็นครูอยู่ที่กรุงเทพฯ ผมต้องผูกเนคไทผมทำในสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดเลย เพื่อเงินอย่างเดียวทำอยู่ประมาณ 1 เดือนชีวิตไม่มีความสุข
...ผมเจอ ภรรยาเธอมาจากจังหวัดขอนแก่นอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกันไม่นานก็มีลูก ผมเริ่มคิดหนัก แต่ก่อนอยู่คนเดียวไม่มีปัญหา มีความสุขหรือไม่มีก็อยู่คนเดียวไม่ยากหรอก เมื่อมีเมียมีลูกมันต้องรับผิดชอบผู้อื่นด้วย จะไปนั่งกินเหล้าเฉยๆ ไม่ได้หรอก คิดว่าทำอย่างไรให้เมียกับลูกอยู่ได้ ผมรู้แน่ๆ ถ้าผมอยู่ในสังคมเมืองและทำงานแบบนี้ ผมจะเป็นคนแย่มากจะกินเหล้า สูบบุหรี่ ติดกาว เที่ยวอย่างเดียว จึงตัดสินใจตัดตัวเองออกจากสังคมเมืองไปอยู่บ้านนอกแฟนผมมาจากหมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดขอนแก่น
ช่วงปีใหม่ผมไปเที่ยวบ้านของแม่ยายเห็นว่าเป็น ธรรมชาติดี...มันเป็นเรื่องแปลก ผมมาอยู่ที่ขอนแก่นเห็นแต่ละคนมีที่ดินเยอะมาก ชาวบ้านธรรมดาคนเดียวมีถึง 50 ไร่ (บางคน) 200 กว่าไร่...อากาศก็ดี
ตอนแรกได้กลิ่น ผมก็ว่ากลิ่นอะไร อ๋อ...กลิ่นธรรมชาติผมไม่เคยดมมาก่อนโอ้สุดยอดเลยบ้านนอก คนอื่นว่าฝรั่งมันบ้า เพราะเขาไม่คิดว่าทำไมฝรั่งอย่างไปอยู่บ้านนอก เขาคิดว่าฝรั่งมีแต่คนรวยฝรั่งไม่มีคนยากจน
..ผม ตกลงกับแฟนว่าเราจะไปอยู่บ้านนอกผมจะไม่รับจ้างสอนภาษาอังกฤษเขาก็ตกลงแต่ ปัญหาก็คีอ ผมทำเกษตรไม่เป็นช่วงแรก ก็ลำบากต้องกลับมาแบกอิฐเหมีอนเดิม วันละ120 บาท โอ้โฮ...เหนื่อย
เพราะที่อังกฤษถึงจะแดดร้อน แต่อากาศเย็นเดินไม่ได้ ต้องวิ่งก็อุ่นได้ แต่ขอนแก่นช่วงนั้นเป็นเดือน 4 อากาศร้อน มาก 40 กว่าองศา บางครั้งผมเป็นลม เขาเอาน้ำมาสาด โอ๊ย..ฝรั่งมันบ้า ทำไมไม่กลับบ้านคิดผิดหรือเปล่า ทำไมต้องมาลำบากขนาดนี้เขาคิดว่าผมเป็นฆาตกรไปฆ่าคนที่อังกฤษแล้วกลับบ้าน ไม่ได้หนีคดีมา ความจริงไม่ใช่ผมก็แค่อยากหาคำตอบในชิวตบางเรื่อง เท่านั้น อยากหาความสุขที่เป็นแบบยั่งยืนหน่อย..ที่ขอนแก่นเขาว่าผมบ้าบ้าง ฝรั่งยากจนบ้าง ฝรั่งตกอับบ้าง ฝรั่งขี้นก ฝรั่งไม่มีเงิน แต่ผมบอกว่าไม่ใช่ผมรวยนะ เขาถามว่ารวยได้ยังไง ผมบอกว่า
1. ผมมีบ้านผม ทำบ้านเล็กๆ เป็นกระท่อมน้อยๆ เอาหญ้ามามุงหลังคาชาวบ้านเรียกว่าเถียงนา ไม่ใช่บ้านหรอก ผมบอกว่าใช่ พื้นบ้านของผมไม่ใช่บ้านเจ้านาย ราคาหนึ่งหมื่นสองพันบาท อยู่ได้ครับ มันอันแดดกันฝนได้แค่นั้นผมก็รวยแล้ว
2. มีที่ดินแค่ 6 ไร่เท่านั้นเอง ที่นั่นเขาบอกว่ากระจอก มีนิดเดียว แต่สำหรับฝรั่งมันเยอะมากจริงๆ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญเป็นพื้นฐานของชีวิตคู่ เราต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของเรา...เรื่องเกษตรผมทำไม่เก่ง แต่ที่ทำได้ง่ายคือ ปลูกต้นไม้ ไม้ประดู่ ไม้สะเดา ไม้ยาง ปลูกไว้ให้ลูกสร้างบ้าน ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ต้นไม้โตเร็วมาก แค่ 25-30 ปีตัดได้แล้ว ไม่เหมือนอังกฤษ...เรื่องแปลกที่คนไทยจะบ่นโอ๊ย...มันร้อนๆ ผมว่ากลับเป็นเรึ่องดี แสงแดดเยอะ จะทำการเกษตรได้ตลอดเวลา ปีหนึ่ง ๆ ทำได้ทุกวันแต่คนไทยจะบ่นร้อนๆ ไม่เอา ๆ อยากเป็นคนผิวขาวดีกว่าแต่คนอังกฤษเขาถือว่าคนผิวขาวเป็นคนจน เพราะว่าไม่มีปัญญาจะไปเมืองนอก ซึ่งกลับกันเลย แม้แต่พอของผมเขาก็ยังมีเครื่องอาบแดดเพีอให้ผิวเป็นสีแทน ให้ดูเป็นแบบคนมีสตางค์ แต่คนไทยกลับ
อยากมีผิวขาว...
...ผมมีลูก 3 คน ชาย 2 หญิง 1 สิ่งสำคัญที่สุด 2 เรื่องในชีวิตของเรา คือ
• ต้องมีบ้านเป็นของตัวเองให้ได้จึงจะถือว่าชีวิตประสบความสำเร็จ
• ต้องมีงานทำทุกวันไม่ได้จำกัดว่า ต้องเป็นงานอะไร แต่ขอให้มีงานทำทกวัน ชีวิตจึงจะไม่สูญเปล่าเมื่อมีบ้านมีงานมีอาหารลูกของผมก็จะรวยที่สุด ผมอยากให้ลูกอยู่บ้านนอก เพราะว่าสะอาด จ้างเท่าไหร่ก็ไม่อยากให้ลูกไปอยู่ในเมืองหรอก เพราะสกปรกแออัดสำคัญที่สุดคือเรื่องของสังคม ผมไม่อยากให้
ลูกไปอยู่ใน เมือง เพราะว่าคนเมืองเห็นแก่ตัววิ่งไปหาเงินอย่างเดียวแข่งขันกันเยอะ เดี๋ยวก็ฆ่ากันฆ่ากันทุกวันไม่สงบ อยากให้ลูกอยู่บ้านนอกเขาจะได้สิ่งที่หายากที่สุดในโลก
...คนอีสานบ้านนอกเป็นคนดีมากนะ มีน้ำใจ รู้จักช่วยเหลือคนอื่นเอื้ออาทรกันเกื้อกูลกันแบ่งปัน
กัน ไม่แข่งขันกันความเป็นชุมชนเป็นสิ่งที่หายากนะ ถ้าเราไปอยู่ในเมืองจะอยู่แบบของใครของมัน บ้านคนละหลัง ครอบครัวแต่ละหลังไม่รู้จักกัน ถ้าเราอยู่ในชุมชนเล็กๆ เราก็ช่วยเหลือกันได้คุยกันได้แบ่งปันกันได้ ในที่สุดเราก็จะเป็นคนมีน้ำใจได้ลูกของผมเขาเป็นคนมีน้ำใจ เขาอาจจะไม่มีเงินไม่ได้เรียนหนังสือสูงๆ แต่เขาจะมีจิตใจที่ดีกว่านั้นเยอะ คือเขาจะมีที่อยู่อาศัย มีชุมชนที่ดี ไม่มียาเสพติดไม่มีการพนัน ไม่มีอาชญากรรม...
..ฝรั่งส่วนมากจะเห็นแก่ตัวผมเคยอยู่ในสังคมอย่างนั้นมาก่อน มันเปลี่ยนยากครับ ผมจึงไม่ได้สอนให้
ลูก เป็นคนมีน้ำใจ แต่มันเป็นที่ชุมชนเป็นวิถีชีวิตของคนอีสานทีเริ่มซึมเข้าไปในกระดูกของเขา ทำให้ลูกอายุแค่ 8 ขวบเป็นคนมีน้ำใจผมถือว่าสุดยอดแล้ว ผมภูมิใจในตัวของ ลูกมาก ๆ...ผมเคยบังคับลูกชายคนแรกตอนอายุประมาณ 3 ขวบ จับมานั่งสอนภาษาอังกฤษ เขาก็ร้องไห้ๆไม่เอาๆๆ ผมก็คิดว่า เอ๊ะ...เราน่าจะเลิกทรมานเด็กปล่อยให้เขามีความสข ตั้งเเต่วันนั้นผมบอกว่าจะไม่สอนเขาอีกแต่ถ้าอยากเรียนให้มาบอกผมผมจะสอนให้ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เขายังไม่มาบอกผมเลย ผมก็มาคิดวาจะให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษเพื่ออะไร ในหมู่บ้านของผมมี 50 ครอบครัว ทุกคนพูดอีสานอย่างเดียว แม้แต่ผมก็ยังพูดแล้ว จะให้เขาเรียนภาษาอังกฤษเพื่ออะไร?
สมมุติว่าลูกของผมอยากอยู่ในหมู่ บ้านนี้ตลอดชีวิต ภาษาอังกฤษก็จะเป็นความรู้ทีไม่เป็นประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ผมเคยเรียกว่า มันเป็นวิชาขี้ข้าเอาไว้รับจ้างเฉยๆ เอาไปหาเงิน คนที่มีความรู้ภาษาอังกฤษจะเอาอันนี้แลกกับเงินอย่างเดียว เขาไม่ได้เรียนเพื่อชีวิตของเขา เขาอยากเอาเงินไปทำงานสูงๆหน่อย ปัญหาของคนอีสานมีมากในเรื่องของการศึกษา คนอีสานล่วนมากไม่อยากให้ลูกเป็นคนอีสานไม่อยากให้ลูกเป็นคนบ้านนอก ไม่อยากให้ลูกพูดภาษาอิสาน อยากให้พูดไทยชาวบ้านส่วนมาก คิดอยากให้ลูกได้ดีในชีวิตคิดว่าสิ่งที่ดีในชีวิต ของ ลูก คือ
1. ไม่ได้พูดอีสานพูดแต่ภาษาไทย
2. พูดภาษาอังกฤษด้วย
3. เล่นคอมพิวเตอร์ได้
4. ไปอยู่ในเมือง
5. ไปรับจ้างเขา
6. ไปสร้างหนี้สิน ไปซื้อบ้านหลังเล็กๆ ราคา 2 ล้าน 3 ล้าน
เขา คิดว่าอย่างนี้ลูกของเขาได้ดี ซึ่งผมไม่เห็นด้วยผมก็อยากให้ลูกของผมได้ดีเหมือนกัน แต่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ปัจจัยที่จะช่วยให้เขาได้ชีวิตที่ดี อาจจะเอาไปแลกเงินในบางช่วงได้ แต่ผมหวังว่าลูกของผมจะมีความคิดสูงกว่านั้น ชีวิตน่าจะมีไว้เพื่อหาสิ่งที่ไม่ใช่เงิน ถ้าเขาเรียนรู้เพี่ออยากจะหาเงินอย่างเดียวก็น่าเสียใจนะ เพราะ ความรู้ เป็น สิ่งที่สำคัญที่สุดแต่การเรียนรู้เป็นสิ่งที่เราต้องทำทุุกวันตลอดชีวิต เราหยุดเรียนรู้ไม่ได้ แต่เอาไม่น่าจะเรียนเพื่อเอาความรู้เอาปริญญาไปแลกกับเงิน ทำให้ความรู้ไม่มีคุณค่า….
คมความคิดของฝรั่งคนหนึ่งที่หลงใหลเมืองไทย เราเป็นคนไทยคิดยังไงกับเรื่องเหล่านี้
มี ฝรั่งจำนวนมากที่รักและอยู่ในเมืองไทย จนคิดว่าตัวเองเป็นคนไทย ถ้าจะตายขอให้ตายบนแผ่นดินไทย สาวไทยใจฝรั่ง คนไหน แต่งงานแล้วลองชวนสามีหรือแฟนฝรั่งของคุณมาอยู่เมืองไทยก็ดีนะเราก้ จะได้มีประชากรไทย แต่ตาสีน้ำข้าว เพิ่มขึ้นในบ้านเรา นอกจากเขาจะหลงสาวไทยแล้ว เขาจะรักเมืองไทย
อ้างอิงที่มา …หนังสือเพราะอะไรฝรั่งจึงมีเมียไทย...โยวิโรจน์ ถิรคุณ
เพราะที่อังกฤษถึงจะแดดร้อน แต่อากาศเย็นเดินไม่ได้ ต้องวิ่งก็อุ่นได้ แต่ขอนแก่นช่วงนั้นเป็นเดือน 4 อากาศร้อน มาก 40 กว่าองศา บางครั้งผมเป็นลม เขาเอาน้ำมาสาด โอ๊ย..ฝรั่งมันบ้า ทำไมไม่กลับบ้านคิดผิดหรือเปล่า ทำไมต้องมาลำบากขนาดนี้เขาคิดว่าผมเป็นฆาตกรไปฆ่าคนที่อังกฤษแล้วกลับบ้าน ไม่ได้หนีคดีมา ความจริงไม่ใช่ผมก็แค่อยากหาคำตอบในชิวตบางเรื่อง เท่านั้น อยากหาความสุขที่เป็นแบบยั่งยืนหน่อย..ที่ขอนแก่นเขาว่าผมบ้าบ้าง ฝรั่งยากจนบ้าง ฝรั่งตกอับบ้าง ฝรั่งขี้นก ฝรั่งไม่มีเงิน แต่ผมบอกว่าไม่ใช่ผมรวยนะ เขาถามว่ารวยได้ยังไง ผมบอกว่า
1. ผมมีบ้านผม ทำบ้านเล็กๆ เป็นกระท่อมน้อยๆ เอาหญ้ามามุงหลังคาชาวบ้านเรียกว่าเถียงนา ไม่ใช่บ้านหรอก ผมบอกว่าใช่ พื้นบ้านของผมไม่ใช่บ้านเจ้านาย ราคาหนึ่งหมื่นสองพันบาท อยู่ได้ครับ มันอันแดดกันฝนได้แค่นั้นผมก็รวยแล้ว
2. มีที่ดินแค่ 6 ไร่เท่านั้นเอง ที่นั่นเขาบอกว่ากระจอก มีนิดเดียว แต่สำหรับฝรั่งมันเยอะมากจริงๆ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญเป็นพื้นฐานของชีวิตคู่ เราต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของเรา...เรื่องเกษตรผมทำไม่เก่ง แต่ที่ทำได้ง่ายคือ ปลูกต้นไม้ ไม้ประดู่ ไม้สะเดา ไม้ยาง ปลูกไว้ให้ลูกสร้างบ้าน ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ต้นไม้โตเร็วมาก แค่ 25-30 ปีตัดได้แล้ว ไม่เหมือนอังกฤษ...เรื่องแปลกที่คนไทยจะบ่นโอ๊ย...มันร้อนๆ ผมว่ากลับเป็นเรึ่องดี แสงแดดเยอะ จะทำการเกษตรได้ตลอดเวลา ปีหนึ่ง ๆ ทำได้ทุกวันแต่คนไทยจะบ่นร้อนๆ ไม่เอา ๆ อยากเป็นคนผิวขาวดีกว่าแต่คนอังกฤษเขาถือว่าคนผิวขาวเป็นคนจน เพราะว่าไม่มีปัญญาจะไปเมืองนอก ซึ่งกลับกันเลย แม้แต่พอของผมเขาก็ยังมีเครื่องอาบแดดเพีอให้ผิวเป็นสีแทน ให้ดูเป็นแบบคนมีสตางค์ แต่คนไทยกลับ
อยากมีผิวขาว...
...ผมมีลูก 3 คน ชาย 2 หญิง 1 สิ่งสำคัญที่สุด 2 เรื่องในชีวิตของเรา คือ
• ต้องมีบ้านเป็นของตัวเองให้ได้จึงจะถือว่าชีวิตประสบความสำเร็จ
• ต้องมีงานทำทุกวันไม่ได้จำกัดว่า ต้องเป็นงานอะไร แต่ขอให้มีงานทำทกวัน ชีวิตจึงจะไม่สูญเปล่าเมื่อมีบ้านมีงานมีอาหารลูกของผมก็จะรวยที่สุด ผมอยากให้ลูกอยู่บ้านนอก เพราะว่าสะอาด จ้างเท่าไหร่ก็ไม่อยากให้ลูกไปอยู่ในเมืองหรอก เพราะสกปรกแออัดสำคัญที่สุดคือเรื่องของสังคม ผมไม่อยากให้
ลูกไปอยู่ใน เมือง เพราะว่าคนเมืองเห็นแก่ตัววิ่งไปหาเงินอย่างเดียวแข่งขันกันเยอะ เดี๋ยวก็ฆ่ากันฆ่ากันทุกวันไม่สงบ อยากให้ลูกอยู่บ้านนอกเขาจะได้สิ่งที่หายากที่สุดในโลก
...คนอีสานบ้านนอกเป็นคนดีมากนะ มีน้ำใจ รู้จักช่วยเหลือคนอื่นเอื้ออาทรกันเกื้อกูลกันแบ่งปัน
กัน ไม่แข่งขันกันความเป็นชุมชนเป็นสิ่งที่หายากนะ ถ้าเราไปอยู่ในเมืองจะอยู่แบบของใครของมัน บ้านคนละหลัง ครอบครัวแต่ละหลังไม่รู้จักกัน ถ้าเราอยู่ในชุมชนเล็กๆ เราก็ช่วยเหลือกันได้คุยกันได้แบ่งปันกันได้ ในที่สุดเราก็จะเป็นคนมีน้ำใจได้ลูกของผมเขาเป็นคนมีน้ำใจ เขาอาจจะไม่มีเงินไม่ได้เรียนหนังสือสูงๆ แต่เขาจะมีจิตใจที่ดีกว่านั้นเยอะ คือเขาจะมีที่อยู่อาศัย มีชุมชนที่ดี ไม่มียาเสพติดไม่มีการพนัน ไม่มีอาชญากรรม...
..ฝรั่งส่วนมากจะเห็นแก่ตัวผมเคยอยู่ในสังคมอย่างนั้นมาก่อน มันเปลี่ยนยากครับ ผมจึงไม่ได้สอนให้
ลูก เป็นคนมีน้ำใจ แต่มันเป็นที่ชุมชนเป็นวิถีชีวิตของคนอีสานทีเริ่มซึมเข้าไปในกระดูกของเขา ทำให้ลูกอายุแค่ 8 ขวบเป็นคนมีน้ำใจผมถือว่าสุดยอดแล้ว ผมภูมิใจในตัวของ ลูกมาก ๆ...ผมเคยบังคับลูกชายคนแรกตอนอายุประมาณ 3 ขวบ จับมานั่งสอนภาษาอังกฤษ เขาก็ร้องไห้ๆไม่เอาๆๆ ผมก็คิดว่า เอ๊ะ...เราน่าจะเลิกทรมานเด็กปล่อยให้เขามีความสข ตั้งเเต่วันนั้นผมบอกว่าจะไม่สอนเขาอีกแต่ถ้าอยากเรียนให้มาบอกผมผมจะสอนให้ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เขายังไม่มาบอกผมเลย ผมก็มาคิดวาจะให้ลูกเรียนภาษาอังกฤษเพื่ออะไร ในหมู่บ้านของผมมี 50 ครอบครัว ทุกคนพูดอีสานอย่างเดียว แม้แต่ผมก็ยังพูดแล้ว จะให้เขาเรียนภาษาอังกฤษเพื่ออะไร?
สมมุติว่าลูกของผมอยากอยู่ในหมู่ บ้านนี้ตลอดชีวิต ภาษาอังกฤษก็จะเป็นความรู้ทีไม่เป็นประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ผมเคยเรียกว่า มันเป็นวิชาขี้ข้าเอาไว้รับจ้างเฉยๆ เอาไปหาเงิน คนที่มีความรู้ภาษาอังกฤษจะเอาอันนี้แลกกับเงินอย่างเดียว เขาไม่ได้เรียนเพื่อชีวิตของเขา เขาอยากเอาเงินไปทำงานสูงๆหน่อย ปัญหาของคนอีสานมีมากในเรื่องของการศึกษา คนอีสานล่วนมากไม่อยากให้ลูกเป็นคนอีสานไม่อยากให้ลูกเป็นคนบ้านนอก ไม่อยากให้ลูกพูดภาษาอิสาน อยากให้พูดไทยชาวบ้านส่วนมาก คิดอยากให้ลูกได้ดีในชีวิตคิดว่าสิ่งที่ดีในชีวิต ของ ลูก คือ
1. ไม่ได้พูดอีสานพูดแต่ภาษาไทย
2. พูดภาษาอังกฤษด้วย
3. เล่นคอมพิวเตอร์ได้
4. ไปอยู่ในเมือง
5. ไปรับจ้างเขา
6. ไปสร้างหนี้สิน ไปซื้อบ้านหลังเล็กๆ ราคา 2 ล้าน 3 ล้าน
เขา คิดว่าอย่างนี้ลูกของเขาได้ดี ซึ่งผมไม่เห็นด้วยผมก็อยากให้ลูกของผมได้ดีเหมือนกัน แต่ภาษาอังกฤษไม่ใช่ปัจจัยที่จะช่วยให้เขาได้ชีวิตที่ดี อาจจะเอาไปแลกเงินในบางช่วงได้ แต่ผมหวังว่าลูกของผมจะมีความคิดสูงกว่านั้น ชีวิตน่าจะมีไว้เพื่อหาสิ่งที่ไม่ใช่เงิน ถ้าเขาเรียนรู้เพี่ออยากจะหาเงินอย่างเดียวก็น่าเสียใจนะ เพราะ ความรู้ เป็น สิ่งที่สำคัญที่สุดแต่การเรียนรู้เป็นสิ่งที่เราต้องทำทุุกวันตลอดชีวิต เราหยุดเรียนรู้ไม่ได้ แต่เอาไม่น่าจะเรียนเพื่อเอาความรู้เอาปริญญาไปแลกกับเงิน ทำให้ความรู้ไม่มีคุณค่า….
คมความคิดของฝรั่งคนหนึ่งที่หลงใหลเมืองไทย เราเป็นคนไทยคิดยังไงกับเรื่องเหล่านี้
มี ฝรั่งจำนวนมากที่รักและอยู่ในเมืองไทย จนคิดว่าตัวเองเป็นคนไทย ถ้าจะตายขอให้ตายบนแผ่นดินไทย สาวไทยใจฝรั่ง คนไหน แต่งงานแล้วลองชวนสามีหรือแฟนฝรั่งของคุณมาอยู่เมืองไทยก็ดีนะเราก้ จะได้มีประชากรไทย แต่ตาสีน้ำข้าว เพิ่มขึ้นในบ้านเรา นอกจากเขาจะหลงสาวไทยแล้ว เขาจะรักเมืองไทย
อ้างอิงที่มา …หนังสือเพราะอะไรฝรั่งจึงมีเมียไทย...โยวิโรจน์ ถิรคุณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น